วันศุกร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2561

การโอนรถด้วยตนเองง่ายๆ เอกสารครบไม่เสียเวลาไม่โดนหลอก

       

       สำหรับหลายๆ คนที่มีความกังวลใจเกี่ยวกับการซื้อรถยนต์ ทั้งจากซื้อต่อจาก ญาติ คนสนิท ต่าง ๆ หรือ ซื้อมาจากในอินเตอร์เน็ต ก็ตามแต่ พอจะไปโอน มันเกิดอาการกังวลจิตใจว่าจะต้องอย่างไร วันนี้อยากมา Share เรื่องราว ขั้นตอนการทำธุรกรรม การโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ ให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ยังไม่รู้นะคะ 

การโอนขอแบ่งเป็นหัวข้อ หลักๆ คือ


        1. โอน ตรง
        2. โอน ลอย


หลักฐานที่ใช้

         •    ใบคู่มือจดทะเบียนรถ
         •    สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 
              ถ้ากรณีเป็นนิติบุคคลใช้หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผุ้มีอำนาจลงนาม
         •    แบบคำขอโอนและรับโอน (กรอกรายการและลงลายมือชื่อผู้โอนและผู้รับโอนเรียนร้อยแล้ว)
         •    หนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบ                             
               กรณีผู้โอน และ/หรือผู้รับโอนมิได้มาดำเนินการด้วยตัวเอง

สถานที่ติดต่อ

      สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ สำนักงานขนส่งจังหวัดหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดสาขาที่ผู้โอนมีที่อยู่ปรากฎในใบคู่มือจดทะเบียนรถหรือที่ขอแจ้งใช้รถไว้

ขั้นตอนการดำเนินการ

•    นำรถเข้ารับการตรวจสอบ ที่งานตรวจสภาพรถยนต์ (ยกเว้นกรณีโอนปิดบัญชีจากผู้ให้เช่าซื้อไปยังผู้เช่าซื้อ ซึ่งเป็นผู้ครอบครองรถตามรายการจดทะเบียน ไม่ต้องตรวจสอบรถ)
•    ยื่นเรื่องโอนกรรมสิทธิ์และชำระค่าธรรมเนียม ที่งานทะเบียนรถ 
•    รับใบคู่มือจดทะเบียนรถคืน

หมายเหตุ การโอนกรรมสิทธิ์รถต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันโอน (หากไม่ดำเนินการภายในกำหนดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาท)

อ้างอิง: ขั้นตอนต่าง ๆ เข้าไปที่เวปไซด์ http://www.dlt.go.th/th 

วิธีที่ 1 การโอนกรรมสิทธิ์ ตรงกับเจ้าของ

    หลังจากทำสัญญาซื้อขายกันเสร็จสรรพ ก็ทำธุระกรรมได้เลย วิธีนี้ทำได้ง่ายๆ โดยผู้ซื้อและผู้ขาย หรือ คนโอนกับคนรับโอน จับมือกันไปหวานแหววกระหนุงกระหนิงไปทำร่วมกันได้เลย  สามารถนำรถยนต์เข้าไปตรวจที่อาคารตรวจสภาพได้เลย 
หมายเหตุ:  รถที่จะนำไปโอนกรรมสิทธิ์ได้นั้น ต้องมีสภาพตรงตาม คู่มือจดทะเบียน (เล่ม)  เช่นหากมีการติดตั้ง แก้ส NGV / LPG ก็ต้องแจ้ง แก้สลงในคู่มือให้เรียบร้อย แต่หากยังไม่ได้แจ้ง แต่มีเอกสาร สามารถดำเนินการพร้อมๆ กันได้เลยค่ะ กรณีที่คล้ายคลึงกันก็เช่น เปลี่ยนสี ติดตั้งต่อเติมรถ เปลี่ยนเครื่องยนต์ เป็นต้นค่ะ
     ตำแน่งการเซ็นที่ถูกต้องคือ

ผู้ขายเซ็น ตรงที่ทำเครื่องหมายไว้



การโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์



ส่วนผู้ซื้อ เซ็น ตรงที่ทำเครื่องหมายไว้




การรับโอนกรรมสิทธิ์





ข้อดีของวิธีนี้คือ

      ผู้ขายมั่นใจได้ว่า รถคนนี้กรรมสิทธิ์จะตกเป็นของผู้ซื้อทันที หากมีการปรับกรณีผิดวินัยทางจราจร หลังจากวันที่ทำธุรกรรม ไม่ต้องมาแบกความเสี่ยงเรื่องภาระต่างๆ  หรือ ภายหลังจากการขายแล้วไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์แล้วรถเกิดเป็นของกลางในการก่อคดี ต่าง ๆ เช่น อุบัติเหตุ ยาเสพติด เจ้าของกรรมสิทธิ์ล่าสุดจะเป็นบุคคลแรกที่ทางตำรวจจะติดตาม เรียกตัวมาสอบถาม 
ข้อเสีย
    ต้องเสียสละเวลาไปด้วยกัน ซึ่งระยะเวลาในการทำธุระกรรมทางทะเบียนขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ และจำนวนผู้ใช้บริการ ณ ขณะนั้นด้วย  แต่หากเจ้าของกรรมสิทธิ์ไม่สามารถมาดำเนินการด้วยตัวเองได้ อาจจะมอบอำนาจให้คนที่ไว้ใจได้มาดำเนินการแทน แต่ระยะเวลาในการดำเนินการก็เท่าเดิม หรืออาจเลี่ยงไปใช้วิธีโอนลอยได้
ข้อปฏิบัตสำคัญของวิธีนี้ 

1.    กรอกรายละเอียดลงในแบบฟอร์มให้ครบถ้วน เพราะว่าถ้าคุณกรอกไม่ครบทางเจ้าหน้าที่จะให้คุณไปกรอกใหม่แล้วค่อยมารับบัตรคิว
2.    ติด อากรแสตมป์กรณีมีใบมอบอำนาจ 10 บาท / 1 ใบมอบอำนาจ
3.    ตรวจดูวันหมดอายุของบัตรประชาชน เป็นสำคัญ
4.    ผู้ซื้อดูวันต่อภาษีด้วย หากภาษีหมดจะถูกบังคับให้ต่อภาษีก่อนจึงจะสามารถโอนได้ 
5.      ดูด้านหลัง สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ (เล่ม) หน้าบันทึก 18-19 ว่ามีการแจ้งขอใช้ในเขตพื้นที่ใด ต้องไปทำเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์ ที่เขตพื้นที่รับผิดชอบนั้น
เช่น เจ้าของกรรมสิทธิ์ทะเบียนอยู่ต่างจังหวัด แต่ใช้รถยนต์ทะเบียน กรุงเทพต้องการทำเรื่องขอใช้ป้ายทะเบียนในกรุงเทพ แต่ต้องเลือกว่า จะใช้ในเขตใด 

ตามรายการต้านล่างนี้
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1
1005 ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ 10150 
โทร. 0-2415-7337

รับผิดชอบในเขตพื้นที่
เขตบางขุนเทียน บางคอแหลม จอมทอง ธนบุรี ราษฎร์บูรณะ คลองสาน สาทร ทุ่งครุ บางบอน และยานนาวา
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 2
51 ถนนสวนผัก แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 
โทร. 0-2882-1620-35


รับผิดชอบในเขตพื้นที่
เขตตลิ่งชัน บางพลัด บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ ภาษีเจริญ หนองแขม พระนคร บางแค และ             ทวีวัฒนา

สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 3
ตรงข้ามซอยสุขุมวิท 62/1 2479 ถนนสุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ 10260
โทร. 0-2332-9688-91

รับผิดชอบในเขตพื้นที่
เขตพระโขนง ประเวศ สวนหลวง คลองเตย บางนา วัฒนา และบางจาก
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 4
34 หมู่ 6 ถนนร่วมพัฒนา แขวงลำต้อยติ่ง เขตหนองจอก กรุงเทพฯ 10530 
โทร. 0-2543-5500-2


รับผิดชอบในเขตพื้นที่
เขตมีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง บึงกุ่ม สะพานสูง คันนายาว และคลองสามวา

กรณีไม่ได้ระบุว่าขอใช้ป้ายในเขตอื่น หรือจังหวัดอื่น ให้ดูตาม เขตหรือ จังหวัดในหน้าผู้ครองครอง คนสุดท้ายได้เลยค่ะ
ของต่างจังหวัด ดูข้อมูลได้ที่ http://www.dlt.go.th/th/index.php?option=com_weblinks&view=category&id=54&Itemid=57

วิธีที่ 2 การโอนลอย 

    วิธีนี้คำ ฮอตฮิตติดปาก ใครๆ ก็พูดๆกัน ว่าโอนลอย แล้วโอนลอยคืออะไร   โอนลอย คือการที่เจ้าของกรรมสิทธิ์เดิม เซ็นผู้โอนไว้แต่ไม่ได้ระบุ ว่าจะโอนให้ใคร  โดยให้เอกสารสำหรับการโอนไปทั้งหมด 
       •    ใบคู่มือจดทะเบียนรถ
       •    สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 
            ถ้ากรณีเป็นนิติบุคคลใช้หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผุ้มีอำนาจลงนาม
       •    แบบคำขอโอนและรับโอน 
       •    หนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบ   กรณีผู้โอน และ/หรือผู้รับโอนมิได้มาดำเนินการด้วยตัวเอง


ข้อควรระวังสำหรับวิธีโอนลอย

         1.    ห้ามลงวันที่ในใบคำขอโอน
         2.    ดูตำแน่งวันหมดอายุบัตร  โดยให้คุณประเมินดูว่าระยะเวลา ที่คุณจะไปดำเนินการโอนเมื่อใด มีเวลาพอก่อนวันบัตรหมดอายุหรือไม่
         3.    ลายเซ็นในหน้าผู้ครอบครองสุดท้าย ได้เซ็นหรือยังและลายมือชื่อนั้นต้องตรงกับเอกสารที่ใช้กรอก
         4.    ดูชื่อในเล่มทะเบียนและบัตรประชาชนตรงกันหรือไม่ หากไม่ต้องต้องขอเอกสารในการเปลี่ยนชื่อ มาประกอบด้วย
         5.    ใบมอบอำนาจ เตรียมไว้เผื่อ 2 ชุด สำหรับการย้ายจังหวัดจะใช้ เพิ่มอีกชุดกรณีต้องการใช้รถในจังหวัดอื่นหรือออกทะเบียนเป็นพื้นที่อื่น
         6.    กรณีเจ้าของรถเป็นช่าวต่างชาติ

               * ภาพถ่ายหนังสือเดินทาง ซึ่งได้รับการตรวจลงตราวีซ่าถูกต้องตามกฎหมาย
               * หนังสือรับรองถิ่นที่อยู่หรือหนังสือรับรองการทำงานจากสถานฑูต กรมการกงสุล กองตรวจคนเข้าเมือง กรมการจัดหางาน หน่วยราชการอื่นๆ หรือองค์การระหว่างประเทศ

        7.    เก็บสัญญาซื้อขายและสำเนาบัตรของผู้ขาย ไว้ตลอดอายุรถยนต์ เพราะหากมีการปรับกรณีผิดวินัยทางจราจร หลังจากวันที่ทำธุรกรรม ไม่ต้องมาแบกความเสี่ยงเรื่องภาระต่างๆ  หรือ ภายหลังจากการขายแล้วไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์แล้วรถเกิดเป็นของกลางในการก่อคดี ต่าง ๆ เช่น อุบัติเหตุ ยาเสพติด เจ้าของกรรมสิทธิ์ล่าสุดจะเป็นบุคคลแรกที่ทางตำรวจจะติดตาม เรียกตัวมาสอบถาม คุณจะใช้สัญหาซื้อขายและ สำเนาบัตรของผู้ขายมาประกอบคำให้การได้

ตำแหน่งการเซ็นให้ถูกต้อง
สำหรับผู้โอน


การโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์


ใบมอบอำนาจ

ใบมอบอำนาจ


เซ็นสำเนาบัตรประชาชน ให้เซ็นรับรองว่า "ใช้สำหรับโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ทะเบียน..............."




แบบคำขอต่างๆ ขอได้ที่
ใน ความเป็นจริงแล้วจะมีการโอนหลายแบบ เช่นการ โอนย้ายปลายทาง การโอนจากไฟแนนซ์มาผู้เช่าซื้อ หรือการซื้อที่เจ้าของเพิ่งปิดไฟแนนซ์มา ซึ่งมีหลายกรณี เอาไว้โอกาสหน้าจะมาเหลาให้อ่านใหม่นะคะ 
ข้อมูลที่ให้หวังว่าเป็นประโยชน์กับคนอื่นไม่มาก็น้อย




ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.car2home.net/

https://sites.google.com/view/carloansuphanburi


ไฟแนนซ์รถ

วันพุธที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2561

มีไอน้ำพุ่งออกจากท่อไอเสีย ไม่ต้องตกใจ

อากาศหนาวๆ ฝนตกแบบนี้ เห็นมีไอน้ำพุ่งออกจากท่อไอเสีย ไม่ต้องตกใจครับผม ...^^
ต้องแยกประเด็นก่อนครับ ระหว่างเผาใหม้สมบูรณ์ กับอากาศชื้น กับเครื่องเย็น ไม่ใช่ว่ามีไอน้ำออกท่อคือเครื่องสมบูรณ์ไปซะทั้งหมด
การเผาใหม้สมบูรณ์ ความหมายตามตัวเลยครับ คือเผาใหม้ออกมาพอดี หมดจด ไม่เหลือ ไม่ขาด
ในน้ำมันประกอบด้วยไฮโดรคาร์บอน(HC) และในอากาศที่เครื่องยนต์ดูดเข้าไปใช้ความต้องการจริงๆแค่ ออกซิเจน(O2) ไปช่วยจุดไฟ เมื่อสองอย่างที่โดนรวมกันและเผาใหม้ออกมา ถ้าพอดีจริงๆ จะได้ H2O ออกมา ก็คือน้ำนั่นเอง และอีกส่วนจะกลายเป็น ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO2) จบกระบวนการ
แต่กระบวนการนี้ใช้ได้เฉพาะสภาพอากาศปกติ เครื่องยนต์ร้อนถึงอุณหภูมิทำงานปกติแล้วเท่านั้นครับ เครื่องเย็นไม่นับ อาการชื้นก็ไม่นับ ....
อ้าวววว แล้วที่เห็นไอน้ำพุงตอนสตาร์ทเครื่องใหม่ๆ อันนั้นคือ... ไอน้ำที่จับตัวอยู่ ตามผนังท่อไอเสีย ชิ้นส่วนต่างๆในเครื่องยนต์เช่นกระบอกสูบ ท่อไอดี ตอนสตาร์ทใหม่ความชื้นพวกนี้จะถูกไล่ออกมา สังเกตุได้ว่าพอเครื่องยนต์ร้อนถึงอุณหภูมิปกติไอน้ำเหล่านี้จะหายไป ไม่ได้หมายความว่าเครื่องยนต์สมบูรณ์นะครับ เพราโดยปกติตอนเครื่องเย็นจะเป็นการเผาใหม้หนาครับ เพราลดการสึกหรอ และให้เครื่องยนต์ร้อนเร็วขึ้น
ยกเว้นแต่ว่าอากาศชื้นจริงๆความชื้นในอากาศมีเยอะ จะมีไอออกจากท่อตลอดเวลา ก็ไม่ได้หมายความว่าไอน้ำเข้าไปในเครื่องเยอะเกินไปอีกนะครับ คล้ายๆคนอะแหละ เวลาหายใจออกตอนอากาศหนาวๆ ก็เหมือนมีควันออกจมูก เพราะความชื้นเจอลมร้อนก็กลายเป็นไอครับผม ใช้งานได้ปกติไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงครับ ^^
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Aek Engineer Tuner's เช็ค ติดตั้งระบบแก็สรถยนต์ ตั้งวาล์ว ล้างหัวฉีดเบนซิน
https://www.facebook.com/aekautogas/

#ไฟแนนซ์ไม่เช็คเครดิต 081 794 2775
https://xn--42caqd2cgcwa2d0awf3vmgch6ch7ds7f.blogspot.com/2017/12/0817942775.html

http://line.me/ti/p/%40fni7951r

ในภาพอาจจะมี สถานที่กลางแจ้งไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ